กรือโป๊ะ ของอร่อยแดนใต้ที่ใครไปต้องห้ามพลาด
ทุกคนเป็นเหมือนกันไหมคะ ไม่ว่าเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่จังหวัดอะไร หรือทางภาคใต้ นอกจากการหาสถานที่เที่ยวยอดฮิตเพื่อไปปักหมุดการเดินทางและแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือแล้ว ทุกคนก็ไม่พลาดที่จะไปลองชิม ‘ของอร่อย’ ของแต่ละจังหวัด ที่เขาบอกกันว่าหากไม่กินเหมือนกับมาไม่ถึงอย่างแน่นอน
ซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนขอเป็นอีกเสียงที่ขอคอนเฟิร์มแบบไม่เขินอาย ว่าหากมีโอกาสเดินทางทุกครั้งจะผ่านกี่จังหวัด หรือไปปักหลักนอนที่ไหน ก็จะต้องได้แวะชิมของอร่อยของจังหวัดนั้นอยู่เสมอ และด้วยความชอบกินนี้วันนี้เราขออนุญาตพาทุกคนล่องใต้ไปที่ปลายด้ามขวาน กันที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานีค่ะ

มาทำความรู้จักกับ ‘กรือโป๊ะ’ ให้มากขึ้นกันเถอะ
เกริ่นมาแบบนี้แล้วหลาย ๆ คนคงจะรู้สึกคุ้น ๆ กับอาหารขึ้นชื่อที่ 2 จังหวัดนี้มีเหมือนกันใช่ไหมล่ะ? ใช่แล้วล่ะค่ะ ‘กรือโป๊ะ’ นั่นเองที่เป็นพระเอกของเราในวันนี้ ซึ่งกรือโป๊ะถือว่าเป็นอาหารว่างที่ไว้กินเล่นได้แบบเพลิน ๆ มีขายได้ทั่วไป หาซื้อได้ง่ายมากใน 2 จังหวัด แต่ในจังหวัดอื่น ๆ กรือโป๊ะกลับเป็นอาหารที่หารับประทานได้ยากมากกก เพราะด้วยกรรมวิธีการทำที่ค่อนข้างซับซ้อน บวกกับความชำนาญในการทำให้อร่อย จึงยากที่คนในภาคอื่น ๆ จะเลียนแบบได้นั่นเอง

สำหรับกรือโป๊ะหรือกระโป๊ะ ส่วนใหญ่แล้วจะมีให้เห็น 2 ลักษณะ คือ ลักษณะแบบข้าวเกรียบที่นำมาถูกรีดจนแบน จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ก็จะกลายเป็นข้าวเกรียบปลารสชาติแตกต่างจากข้าวเกรียบรูปแบบเดิม ๆ ที่เรารับประทานกัน ส่วนอีกแบบคนใต้จะเรียกกันว่ากระโป๊ะสด ลักษณะจะเป็นแท่งยาว ๆ เมื่อต้องการบริโภคก็นำมาหั่นเป็นชิ้นหรือเป็นเส้นแล้วทอดให้สุก รับประทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด บอกได้คำเดียวว่าสุดจะเด็ด ใครที่กินเป็นครั้งแรกอาจลืมของกินเล่นรูปแบบอื่น ๆ ไปได้เลยล่ะ
แต่สิ่งหนึ่งที่กรือโป๊ะ 2 รูปแบบมีเหมือนกันคือ วัตถุดิบที่ใช้ทำคือเนื้อปลาสด ๆ ส่วนใหญ่จะเลือกใช้เป็นปลาทูสด หรือไม่ก็เป็นปลาชนิดอื่น ๆ ที่หาได้ง่ายทางภาคใต้ แต่ที่สำคัญปลาทุกชนิดที่นำมาทำจะต้องอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการรับประทานไปแบบเต็ม ๆ นั่นเองค่ะ

ซึ่งอาหารชนิดนี้เกิดขึ้นด้วยฝีมือของคนในชุมชน เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน (เล่ากันว่าเกิดมาจากบรรพบุรุษของชาวดาโต๊ะ) จนถึงปัจจุบันอาหารประเภทนี้ก็ยังมีจำหน่ายและเป็นที่นิยมของคนในท้องถิ่นดังเดิม
แต่เดิมกรือโป๊ะเป็นเพียงอาหารกินเล่นที่ทำกันในครัวเรือนและแบ่งขายกันในชุมชนเท่านั้น แต่ด้วยกระแสความนิยมที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เริ่มตั้งแต่ตำบล อำเภอ ไปจนถึงจังหวัด จึงทำให้สินค้านี้ขายดีมาก ๆ แถมยังถือว่าเป็นขุมทรัพย์ของชุมชนอีกด้วยนะ เพราะชาวบ้านที่ไม่มีงานทำประจำหรือคนที่ต้องการหารายได้เสริม ก็สามารถเข้าไปเรียนรู้วิธีการทำ และสามารถจำหน่ายได้เลย

และด้วยความนิยมของกรือโป๊ะ ทุกคนเลยไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเดินทางไปปัตตานีหรือนราธิวาส คุณสามารถหากรือโป๊ะรับประทานได้ง่ายขนาดนั้น ทั้งตามรถเข็นข้างทาง ห้างสรรพสินค้า งานประจำปี ร้านอาหาร ร้านโรตี หรือแม้แต่ร้านน้ำชาก็มีจำหน่าย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็ด้วยความที่รับประทานง่าย เคี้ยวได้แบบเพลิน ๆ แถมราคาก็ยังไม่แพง (ถูกมากๆ) ก็เลยทำให้หลาย ๆ ที่ ยกเอากรือโป๊ะเป็นสินค้าซิกเนเจอร์ประจำร้านนั่นเอง (อุดหนุนชุมชนด้วยนะ)
ใครมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส ก็อย่าลืมแวะไปรับประทานกรือโป๊ะตามที่เราบอกนะ รับรองว่าคุณจะต้องติดอกติดใจแบบที่เราเป็นอยู่อย่างแน่นอน แต่หากใครอยากจะไปเหมา ๆ กรือโป๊ะกลับมาฝากคนรู้จัก ก็อย่าลืมแวะเข้าไปที่เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์จะได้มีกระเป๋าตุง ๆ ไปเหมากันแบบจุก ๆ นะคะ